ก. สำหรับ ภาวะ โลหิตจาง ประเภท Megaloblastic anemia: รับประทาน 1 มิลลิกรัม วันละครั้ง อาจรับประทานจนกระทั่ง ภาวะ โลหิตจาง ดีขึ้นหรือจนกว่าเป็นปกติ ในผู้ใหญ่ รับประทาน 400 - 800 ไมโค รก รัม วันละครั้ง ใน เด็กทารก รับประทาน 0. 1 มิลลิกรัม วันละครั้ง เด็ก อายุต่ำกว่า 4 ปี รับประทานได้ถึง 0. 3 มิลลิกรัม วันละครั้ง เด็ก อายุ 4 ปีขึ้นไป รับประทาน 0. 4 มิลลิกรัม วันละครั้ง ค. สำหรับการเสริมวิ ตา มินใน เด็ก: เด็ก อายุ 1 -3 ปี รับประทานครั้งละ 150 ไมโค รก รัม วันละครั้ง เด็ก อายุ 4 - 8 ปี รับประทานครั้งละ 200 ไมโค รก รัม วันละครั้ง เด็ก อายุ 9 - 13 ปี รับประทานครั้งละ 300 ไมโค รก รัม วันละครั้ง เด็ก อายุ 14 ปีขึ้นไป รับประทานครั้งละ 400 ไมโค รก รัม วันละครั้ง เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร? เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึง กรดโฟลิก ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรดังนี้ ประวัติ แพ้ยา ทุกชนิด เช่น กินยาแล้ว คลื่นไส้ มาก ขึ้น ผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/ หายใจลำบาก มี โรคประจำตัว ต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะ กรดโฟลิก อาจส่งผลให้ อาการ ของ โรค เหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิด ปฏิกิริยาระหว่างยา กับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ใน ภาวะ ตั้งครรภ์ หรือกำลัง ให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทาง น้ำ นมหรือ รก และเข้าสู่ ทารก จนก่อให้เกิด ผลข้างเคียง ได้ หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
Prevention neural tube defect (spina bifida, anencephaly) ขนาดยาที่ใช้ galoblastic anemia and macrocytic anemia ที่มีสาเหตุจากการขาด folate Dosage สำหรับ Folic acid deficiency, Megaloblastic anemia Dose ไม่จำกัดอายุ ขนาดยาที่ให้ = 0. 1mg/day – 1 mg/day maintenance dose อายุน้อยกว่า 1 ปี = 0. 1 mg/day อายุ< 4 ปี = 0. 3 mg/day อายุ> 4 ปี = 0. 4 mg/day กรณีที่ไม่ได้ผลให้ > 1 mg/day จนกว่าอาการจะดีขึ้น เมื่อผลเลือดดีขึ้นให้ ทางยุโรปจะให้ dose สูงกว่าทางอเมริกาคือ อายุน้อยกว่า 1 ปี = 500mcg/kg/day อายุมากกว่า 1 ปีให้คล้ายผู้ใหญ่คือ 5-15 mg/day(doseสูง15mg สำหรับ malabsorption) Prophylaxis กรณีทำ dialysis 250mcg/kg/day(<12ปี) 5-10mg/day(>12ปี) evention neural tube defect (spina bifida, anencephaly) 2. 1 สำหรับหญิงมีครรภ์ปกติ 0. 4-1. 0 mg/day หญิงมีครรภ์ปกติแนะนำกินทุกคน 0. 4 mg(400mcg)/day(CDC USA) ** และผู้ที่จะมีบุตรแนะนำให้กิน 0. 4mg-0. 8mg/day (U. S. Preventive Services Task Force) 2. 2 สำหรับหญิงมีความเสี่ยงสูงในการเกิด NTDs แนะนำให้ยาขนาดยาสูง 5 mg/day -ทารกในครรภ์ครั้งก่อนหรือมีประวัติในครอบครัวเป็น NTDs -Insulin dependent mellitus -โรคลมชักที่รักษาด้วยยา valproic หรือ carbamazepine กรณีวางแผนตั้งครรภ์ ให้ Folic a 4 mg ก่อนตั้งครรภ์ 1 เดือน จนตลอด 3 เดือนแรก กรณีไม่วางแผนตั้งครรภ์ แต่คิดว่าจะมีลูก Folic a 0.
การใช้ กรดโฟลิก ร่วมกับ ยารักษาโรค ลมชัก อาจส่งผลให้ระดับของ ยารักษาโรค ลมชัก ที่อยู่ ในกระแส เลือด ลดต่ำลง อาจต้องปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสม ยารักษาโรค ลมชัก ดังกล่าว เช่น Phenobarbital, Phenytoin การใช้ กรดโฟลิก ร่วมกับ ยาช่วยย่อย อาหาร อาจทำให้การดูดซึมของ กรดโฟลิก ลดลง จึง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่เวลาใกล้เคียงกัน ยาช่วยย่อย อาหาร ดังกล่าว เช่น Pancrelipase ควรเก็บรักษากรดโฟลิกอย่างไร? สามารถเก็บยากรด โฟลิก ที่ อุณหภูมิ ห้อง เก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงสว่าง แสงแดด และความชื้น ไม่เก็บยาในห้อง น้ำ และเก็บยาให้พ้นมือ เด็ก และสัตว์เลี้ยง กรดโฟลิกมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง? ยากรด โฟลิก ที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นๆและบริษัทผู้ผลิต เช่น ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต Blackmores Folic Acid (แบล็คมอร์ โฟลิก เอซิด) Blackmores F-Min (เอฟ-มิน) Patar Lab Foliamin (โฟเลียมิน) Takeda Folic Acid Central Poly ( โฟลิก เอซิด เซ็นทรัล โพลี) Pharmasant Lab Folimed (โฟลิเมด) Medicine Products Folivit (โฟลิวิต) Siam Bheasach Folic Acid GPO (โพลิก เอซิด จีพีโอ) GPO บรรณานุกรม
Folic acid QX Rx (100mcg=0. 1mg) หญิงครรภ์ & ก่อนมีครรภ์ = 0.
เผยแพร่ครั้งแรก 31 มี. ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ. ย.
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ขนาดยาของกรดโฟลิก ขนาดยาต่อไปนี้ได้รับการศึกษาในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีความเหมาะสมในการใช้ สำหรับอาการขาดกรดโฟลิก ขนาดยาปกติคือ 250-1000 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับการป้องกันภาวะหลอดประสาทไม่ปิด ผู้หญิงที่แนวโน้ม ตั้งครรภ์ และต่อเนื่องมาจนถึงเดือนแรกของการตั้งครรภ์ ควรรับประทานกรดโฟลิกขั้นต่ำ 400 ไมโครกรัมต่อวัน จากอาหารเสริม ผู้หญิงที่เคยมีอาการแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ เช่น ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด ปกติแล้วจะรับประทาน 4 มก. ต่อวัน เริ่มต้นหนึ่งเดือนก่อนตั้งครรภ์ และรับประทานต่อเนื่องมาจากถึง 3 เดือนหลังตั้งครรภ์ สำหรับการลดความเสี่ยงในการเป็น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รับประทาน 400 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับการรักษาระดับสารโฮโมซีสทีนในเลือดสูง ใช้ในขนาด 5-5 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย การรักษาระดับสารโฮโมซีสทีนในเลือดสูงนั้น เป็นไปได้ยาก และมีการใช้ยาในขนาด 0. 8-15 มก. ต่อวัน ขนาดยาแบบอื่น เช่น 2. 5-5 มก. 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขนาดยาที่สูกว่า 15 มก. ต่อวัน อาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพมากกว่า สำหรับการส่งเสริมการตอบสนองต่อยารักษาโรคซึมเศร้า ใช้ปริมาณ 200-500 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับโรคด่างขาว โดยปกติแล้วคือ 5 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้ง สำหรับการลดพิษที่เกี่ยวข้องกับการรักษาด้วยยาเมโธเทรกเซทสำหรับโรคข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis)หรือโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ใช้ปริมาณ 1 มิลลิกรัมต่อวัน มากสุดคือ 5 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับการป้องกันโรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม กรดโฟลิก 2.