เผยแพร่: 6 ม. ค. 2564 09:24 โดย: โรม บุนนาค เมื่อกองทัพญี่ปุ่นเคลื่อนกำลังเข้าประเทศไทยในในที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๔ พร้อมกับส่งฝูงบินเข้าถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์ ฐานทัพเรือของสหรัฐที่เกาะฮาวาย ต่อมาไทยได้ประกาศสงครามกับอเมริกาด้วย แต่รัฐบาลอเมริกันถือว่าการประกาศสงครามของรัฐบาลไทยมิได้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนชาวไทย จึงไม่นำพาต่อการประกาศสงครามนี้ คงรับรองฐานะของทูตไทยว่าเป็นทูตของประเทศไทย แต่ไม่ยอมรับรัฐบาลที่กรุงเทพฯซึ่งอยู่ใต้อิทธิพลของญี่ปุ่น ในทันทีที่ญี่ปุ่นบุกเข้าไทย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน คือ ม. ร.
เสนีย์ ปราโมช แจ้งว่าอังกฤษยอมผ่อนปรนลงมากแล้ว ฝ่ายอเมริกันพอใจ จึงขอถอนที่ไม่ให้ไทยลงนามไว้ ในที่สุดเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๙ ผู้แทนไทยก็ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลให้ลงนามความตกลง ที่เรียกว่า "ความตกลงสมบูรณ์แบบเพื่อเลิกสถานะสงคราม ระหว่างประเทศไทยกับบริเตนใหญ่และอินเดีย" ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด ๒๔ ข้อ โดยเรียกร้องข้าว ๑. ๕ ล้านตันจากไทยอยู่ดี แถมยังพ่วงห้ามไทยขุดคลองที่คอคอกกระ เชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทยก่อนที่จะรับความเห็นชอบจากอังกฤษ และเพื่อตอบแทนการยอมรับสัญญานี้ รัฐบาลอังกฤษกับอินเดีย จะสนับสนุนให้ไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ จบเรื่องกับอังกฤษไปด้วยความขมขื่น ทำให้คนไทยต้องปันส่วนข้าวสารกันกินแล้ว รายต่อไปก็คือฝรั่งเศส ซึ่งแสบยิ่งกว่า นอกจากจะเรียกร้องดินแดน ๔ จังหวัดในในมณฑลบูรพา คือ พระตะบอง พิบูลสงคราม ลานช้าง และจำปาศักดิ์คืนแล้ว ยังเรียกร้องในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดและคิดไม่ถึงจริงๆ ก็คือ ขอพระแก้วมรกตคืนด้วย บ้าถึงขนาดนี้ จึงต้องต่อกันอีกตอนครับ